เป็นกระบวนการทางทันตกรรมที่ใช้ในการรักษาฟันที่มีการติดเชื้อหรือความเสียหายที่รากฟันหรือโพรงประสาท (pulp) เพื่อช่วยฟันยังคงอยู่ในปากและป้องกันการติดเชื้อจากการแพร่กระจายไปยังส่วนอื่น ๆ ของร่างกาย การรักษารากฟันมักจะใช้ในกรณีที่ฟันมีปัญหาหรือความเสียหายลึกเกินกว่าการอุดฟันทั่วไป
การรักษารากฟันจะทำเมื่อฟันมีปัญหาหรือความเสียหายที่ส่งผลกระทบต่อ โพรงประสาท (เนื้อเยื่อภายในฟัน) ซึ่งสามารถเกิดขึ้นได้จากหลายสาเหตุ เช่น
• ฟันผุรุนแรง การผุที่ลึกจนกระทบถึงโพรงประสาทหรือรากฟัน
• ฟันบาดเจ็บหรือแตกหัก ฟันที่มีการแตกหักหรือถูกกระทบแรงจนทำให้โพรงประสาทเสียหาย
• การติดเชื้อที่รากฟัน การติดเชื้อที่เกิดจากฟันผุที่ไม่ได้รับการรักษาในระยะเริ่มต้น สามารถทำให้เกิดการอักเสบที่รากฟันหรือการติดเชื้อในเนื้อเยื่อภายในฟัน
การรักษารากฟันอาจใช้เวลา 1 - 3 ครั้ง ซึ่งจะมีขั้นตอนการรักษาดังนี้
การตรวจสอบฟัน
• ทันตแพทย์จะทำการตรวจสอบฟันด้วยการถ่ายเอกซเรย์เพื่อดูว่าโพรงประสาทหรือรากฟันได้รับความเสียหายหรือไม่
• หากฟันติดเชื้อ ทันตแพทย์จะพิจารณาว่าจำเป็นต้องรักษารากฟันเพื่อกำจัดการติดเชื้อหรือไม่
การฉีดยาชา
• ทันตแพทย์จะทำการฉีดยาชา ในบริเวณที่ต้องรักษา เพื่อให้ผู้ป่วยไม่รู้สึกเจ็บปวดระหว่างกระบวนการรักษา
การเปิดโพรงฟัน
• ทันตแพทย์จะทำการเปิดช่องฟันเพื่อเข้าถึงโพรงประสาท (pulp) ที่ถูกติดเชื้อหรือเสียหาย
การกำจัดเนื้อเยื่อภายในฟัน
• ทันตแพทย์จะทำการกำจัดเนื้อเยื่อที่ติดเชื้อหรือเนื้อเยื่อประสาทออกจากโพรงประสาทและช่องรากฟัน เพื่อป้องกันไม่ให้การติดเชื้อแพร่กระจายไปยังส่วนอื่นของฟันหรือร่างกาย
การทำความสะอาดและฆ่าเชื้อ
• หลังจากการกำจัดเนื้อเยื่อแล้ว ทันตแพทย์จะทำการทำความสะอาดช่องคลองฟันด้วยน้ำยาฆ่าเชื้อ และขยายคลองรากให้เหมาะสมกับการอุดฟัน
การอุดรากฟัน
• เมื่อทำความสะอาดคลองรากฟันแล้ว ทันตแพทย์จะทำการอุดรากฟันด้วยวัสดุพิเศษที่ออกแบบมาเพื่อปิดผนึกคลองรากฟัน เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดการติดเชื้อซ้ำ
การครอบฟัน (ถ้าจำเป็น)
• ฟันที่ได้รับการรักษารากฟันมักจะมีความอ่อนแอลง เนื่องจากการขจัดเนื้อเยื่อที่ติดเชื้อและการรักษาที่ทำให้ฟันไม่สามารถรับแรงบดเคี้ยวได้เหมือนเดิม อีกทั้งฟันที่ต้องรักษารากส่วนใหญ่มักจะเกิดจากรอยผุหรือมีความเสียหายขนาดใหญ่ เนื้อฟันที่ดีเหลือน้อย ความแข็งแรงน้อยลง
• ในบางกรณี ทันตแพทย์อาจแนะนำให้ทำการครอบฟัน (crown) เพื่อให้ฟันแข็งแรงและป้องกันการแตกหักในอนาคต
รักษาฟันได้ยาวนาน
• การรักษารากฟันช่วยให้ฟันที่เสียหายหรือมีการติดเชื้อสามารถอยู่ในช่องปากได้ต่อไป โดยไม่จำเป็นต้องถอนฟัน
ป้องกันการติดเชื้อ
• การกำจัดเนื้อเยื่อที่ติดเชื้อช่วยป้องกันไม่ให้เชื้อโรคแพร่กระจายไปยังส่วนอื่นๆ ของร่างกาย
ลดความเจ็บปวด
• หลังจากการรักษารากฟันจะช่วยลดอาการเจ็บปวดที่เกิดจากการติดเชื้อที่รากฟัน
สามารถเก็บฟันได้
• การรักษารากฟันช่วยให้ฟันที่ติดเชื้อสามารถใช้งานได้ต่อไป แทนที่จะต้องถอนออกไป
อาการเสียวฟัน
• หลังการรักษารากฟัน ผู้ป่วยบางรายอาจมีอาการเสียวฟันหรือรู้สึกเจ็บที่ฟันหลังการรักษา
การแตกหักของฟัน
• ฟันที่ผ่านการรักษารากฟันอาจมีความเปราะบางมากขึ้น และอาจต้องทำการครอบฟันเพื่อป้องกันการแตกหัก
การติดเชื้อซ้ำ
• ในบางกรณี การรักษารากฟันอาจไม่สามารถกำจัดการติดเชื้อได้ทั้งหมด อาจทำให้ฟันติดเชื้อซ้ำได้
ค่าใช้จ่ายสูง
• การรักษารากฟันมักจะมีค่าใช้จ่ายสูง เนื่องจากกระบวนการค่อนข้างซับซ้อนและต้องใช้วัสดุเฉพาะ
หลังจากการรักษารากฟันควรหลีกเลี่ยงการทานอาหารแข็งหรือเหนียวจนกว่าจะทำการครอบฟัน
การแปรงฟันและใช้ไหมขัดฟันอย่างสม่ำเสมอเป็นสิ่งสำคัญเพื่อป้องกันไม่ให้เกิดการติดเชื้อในอนาคต
ควรเข้าพบทันตแพทย์เพื่อตรวจเช็คฟันอย่างสม่ำเสมอหลังการรักษา
การรักษารากฟันเป็นกระบวนการที่สำคัญในการช่วยรักษาฟันที่เสียหายจากการผุหรือการติดเชื้อรุนแรง เพื่อฟันจะสามารถอยู่ในช่องปากได้และยังคงทำหน้าที่ได้ตามปกติ การรักษานี้ช่วยหลีกเลี่ยงการต้องถอนฟันและทำให้ฟันสามารถใช้งานได้ต่อไปในระยะยาว แม้ว่าจะมีค่าใช้จ่ายและอาจมีความรู้สึกไม่สบายหลังการรักษา แต่ก็ถือเป็นวิธีที่ปลอดภัยและมีประสิทธิภาพในการรักษาฟันที่ติดเชื้อหรือเสียหาย