ทำความรู้จัก “รากฟันเทียม” เหมาะกับใครและช่วยแก้ปัญหาฟันได้อย่างไร
ทำความรู้จัก รากฟันเทียม เหมาะกับใครและช่วยแก้ปัญหาฟันได้อย่างไร
รากฟันเทียม (Dental Implants) เป็นทางเลือกในการรักษาฟันที่สูญหายหรือเสียหาย ที่มีความทนทานและเหมาะสมกับหลายคน รากฟันเทียมไม่เพียงแค่แก้ไขปัญหาฟันหาย แต่ยังช่วยปรับปรุงฟังก์ชันการใช้ฟัน การยิ้มและเสริมบุคลิกภาพเพิ่มความมั่นใจให้ดียิ่งขึ้นได้ด้วย
รากฟันเทียมเหมาะกับใคร
รากฟันเทียมเหมาะกับผู้ที่มีปัญหาสูญเสียฟันไปหรือฟันเสียหายมากจนไม่สามารถรักษาด้วยวิธีอื่นได้ โดยทั่วไปแล้ว ผู้ที่สามารถทำรากฟันเทียมได้มีลักษณะดังนี้
1. ผู้ที่สูญเสียฟัน
- ฟันหายจากอุบัติเหตุ, โรคเหงือก, การรักษาที่ไม่สำเร็จ หรือการเสื่อมสภาพของฟัน
- สามารถใช้รากฟันเทียมเพื่อทดแทนฟันที่หายไป ทั้งในกรณีที่สูญเสียฟันเดียวหรือหลายซี่
2. ผู้ที่มีสุขภาพทั่วไปดี
- ทำรากฟันเทียมเพื่อต้องการรักษากระดูกขากรรไกรที่ดีเพื่อให้เป็นฐานวางฟันปลอมแบบถอดได้ หากผู้ป่วยมีปัญหาเกี่ยวกับกระดูกขากรรไกร เช่น กระดูกบาง หรือการละลายตัวของกระดูก อาจต้องมีการเสริมกระดูกก่อนการฝังรากฟันเทียม
- ไม่มีปัญหาทางการแพทย์ที่ร้ายแรง เช่น โรคเบาหวานที่ไม่ควบคุม, โรคหัวใจขั้นรุนแรง, หรือการติดเชื้อที่ไม่หาย
3. ผู้ที่ต้องการความสะดวกและความสวยงาม
- รากฟันเทียมให้ลักษณะเหมือนฟันธรรมชาติและไม่ต้องถอดออกเหมือนฟันปลอมแบบถอดได้
- ไม่มีผลต่อการเคี้ยวหรือการพูด สามารถทำงานได้เหมือนฟันธรรมชาติ
4. ผู้ที่ไม่สามารถใช้ฟันปลอมได้
- สำหรับบางคนที่ใช้ฟันปลอมแล้วรู้สึกไม่สะดวก หรือฟันปลอมหลวมอาจไม่สามารถทดแทนฟันที่หายไปได้ดี การใช้รากฟันเทียมอาจเป็นทางเลือกที่ดีกว่า
การแก้ปัญหาฟันด้วยรากฟันเทียม
รากฟันเทียมช่วยแก้ปัญหาฟันหายหรือเสียหายได้หลากหลายรูปแบบ โดยมีประโยชน์หลักดังนี้
1. ฟื้นฟูการใช้งานฟัน
- ฟันเทียมสามารถทดแทนฟันที่หายไป ทำให้สามารถเคี้ยวอาหารได้ปกติและไม่มีความรู้สึกไม่สะดวกเหมือนกับฟันปลอมแบบถอดได้
- ช่วยปรับปรุงการพูด เพราะรากฟันเทียมไม่เคลื่อนที่เหมือนฟันปลอมแบบถอดได้รุ่นเก่า
2. ป้องกันการสูญเสียกระดูกขากรรไกร
- เมื่อฟันหายไป กระดูกที่รองรับฟันจะค่อยๆ สลายไป การใส่รากฟันเทียมช่วยกระตุ้นการรักษากระดูกขากรรไกรให้คงความแข็งแรงและไม่สูญเสียรูปทรง
- ถ้าไม่มีการใส่รากฟันเทียม หรือฟันปลอมที่ไม่ได้มีการยึดติดกับกระดูก อาจทำให้กระดูกขากรรไกรค่อยๆ ละลายตัวไปและไม่สามารถใส่รากฟันเทียมในอนาคตได้
3. การปรับปรุงลักษณะใบหน้า
- ฟันที่หายไปทำให้โครงสร้างใบหน้าดูยุบตัวลง แต่รากฟันเทียมจะช่วยรักษาความสมดุลของโครงหน้าและลักษณะการยิ้มให้เป็นธรรมชาติ
4. ความสะดวกสบาย
- เนื่องจากรากฟันเทียมยึดติดกับกระดูกขากรรไกร รากฟันเทียมจะไม่เคลื่อนที่หรือขยับเหมือนฟันปลอมที่ถอดออกได้
- การดูแลรักษาก็ง่าย เพราะไม่ต้องถอดฟันออกมาทำความสะอาด
5. ฟันเทียมที่มีลักษณะคล้ายฟันธรรมชาติ
- ฟันเทียมที่ทำจากวัสดุอย่างไทเทเนียมและวัสดุเซรามิกจะมีลักษณะที่คล้ายกับฟันธรรมชาติทั้งในด้านสีและรูปร่าง ทำให้ฟันเทียมดูเป็นธรรมชาติ
ข้อดีของรากฟันเทียม
- ทนทานและยาวนาน รากฟันเทียมสามารถอยู่ได้นานหลายสิบปี หากดูแลรักษาอย่างดี
- ไม่ต้องกรอฟันข้างเคียง ในกรณีที่ใส่สะพานฟันจะต้องกรอหรือตัดฟันข้างเคียง แต่รากฟันเทียมไม่จำเป็นต้องทำเช่นนั้น
- รักษาความสะอาดช่องปาก รากฟันเทียมที่ติดแน่นจะช่วยให้การทำความสะอาดช่องปากได้ง่ายขึ้น
ข้อจำกัดและสิ่งที่ต้องพิจารณา
- ค่าใช้จ่ายสูง รากฟันเทียมมีราคาค่อนข้างสูงเมื่อเทียบกับฟันปลอมแบบถอดได้
- กระบวนการผ่าตัด การฝังรากฟันเทียมต้องอาศัยการผ่าตัดและใช้เวลาในการฟื้นตัว
โดยรวมแล้ว รากฟันเทียมเหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการฟันที่ทดแทนฟันธรรมชาติได้อย่างดีเยี่ยมและยืนยาว รวมถึงต้องการปรับปรุงการใช้งานฟัน เช่น การเคี้ยว และการพูด