รากฟันเทียมคืออะไร
รากฟันเทียมคืออะไร
รากฟันเทียมคือ รากฟันที่ทำจากวัสดุไทเทเนียมเกรดการแพทย์เพื่อทดแทนฟันธรรมชาติที่สูญเสียไป โดยรากเทียมได้ผ่านการวิจัยและรับรองแล้วว่าปลอดภัยและเป็นมิตรต่อร่างกาย รากเทียมจะถูกผ่าตัดฝังในกระดูกบริเวณที่วางแผนด้วยระบบดิจิตอล โดยกระดูกจะยึดเกาะรากเทียมไว้คล้ายกับที่ยึดฟันธรรมชาติและทำให้รากเทียมสามารถทำหน้าที่ได้เสมือนฟันธรรมชาติ
ใครที่เหมาะกับการทำรากฟันเทียมบ้าง
- คนที่สูญเสียฟันธรรมชาติไป
- มีกระดูกเพียงพอต่อการฝังรากเทียม
- ไม่มีโรคทางระบบที่เป็นข้อต้องห้าม
- สุขภาพช่องปากดี
รากฟันเทียมแบบไหนที่เหมาะกับเรา
ปัจจุบันรากฟันเทียมมีหลากหลายแบรนด์ในท้องตลาด เราสามารถเลือกรากเทียมได้โดยดูจากบริษัทที่ผลิตว่ามีการก่อตั้งมานานแค่ไหน มีรับประกันหรือไม่ เพราะการเลือกรากเทียมก็เหมือนกับการเลือกซื้อรถยนต์ เมื่อมีแล้วก็ต้องหมั่นคอยดูแลรักษาเป็นประจำทุก 6 เดือน อุปกรณ์ที่ใช้ในการดูแลรักษาหรือซ่อมแซมรากเทียมแต่ละแบรนด์ก็แตกต่างกัน สามารถแทบจะเรียกได้ว่าใช้แทนกันเกือบไม่ได้ หลังทำรากฟันเทียมเราจึงควรทราบชื่อแบรนด์ของรากเทียมที่เราทำไว้ด้วย ในส่วนของแผนการรักษาคุณหมอเองก็จะประเมินสภาพในช่องปากและเอ็กซเรย์ 3 มิติประเมินคุณภาพกระดูก เพื่อช่วยให้คำแนะนำว่ารากฟันเทียมแบบไหนที่เหมาะกับแต่ละเคส จำเป็นต้องเสริมกระดูกเทียมหรือไม่ โดยคุณหมอจะวางแผนตำแหน่งและจำนวนรากฟันเทียมโดยประเมินจากสภาพช่องปากคนไข้แต่ละเคสแตกต่างกันไป
รากฟันเทียมมีกี่แบบ
1. รากฟันเทียมซี่เดียว (Single Dental Implant)
ในเคสที่สูญเสียฟันธรรมชาติไปเพียง 1 ซี่ หรือหลายซี่แต่ไม่ได้อยู่ติดกัน คนไข้สามารถดูแลความสะอาดคล้ายการดูแลฟันธรรมชาติ อีกทั้งรากฟันเทียมซี่เดียวยังสามารถเคี้ยวอาหารและรับแรงบดเคี้ยวคล้ายฟันธรรมชาติมากที่สุด เหมาะกับเกือบทุกเคส
2. รากฟันเทียมรองรับสะพานฟัน (Implant Support Bridge)
เหมาะกับเคสที่สูญเสียฟันธรรมชาติมากกว่า 2 ซี่และมีตำแหน่งอยู่ติดกัน โดยใช้สะพานฟันเชื่อมตรงกลางระหว่างรากฟันเทียมสองซี่
3. รากฟันเทียมรองรับฟันปลอมแบบถอดได้ (Implant Retained Denture)
เหมาะกับเคสที่ฟันหายไปหลายซี่ ฟันปลอมแบบถอดได้วางอยู่บนรากเทียมเพื่อช่วยประคองไม่ให้ฟันปลอมหลวม โดยทันตแพทย์จะนัดเช็คฟันปลอมเป็นประจำทุก 6 เดือนเพื่อตรวจสภาพและทำความสะอาด
4. รากฟันเทียมรองรับฟันปลอมทั้งปากแบบติดแน่น (Implant Supported Denture or All on 4)
เหมาะกับเคสที่สูญเสียฟันธรรมชาติทั้งปาก โดยทันตแพทย์จะประเมินและวางแผนว่าควรฝังรากฟันเทียมจำนวนกี่ตัวต่อขากรรไกร เช่น 4 - 8 ตัว การใส่รากเทียมเพื่อรองรับฟันปลอมชนิดนี้ จะช่วยลดปัญหาฟันปลอมหลวม พูดไม่ชัด และช่วยเพิ่มความมั่นใจในเคสที่สูญเสียฟันไปทั้งปาก
รากฟันเทียมประกอบด้วย
รากฟันเทียมประกอบไปด้วยส่วนประกอบ 3 ส่วน รากเทียม (Fixture) แกนรองรับรากฟันเทียม (Abutment) และครอบฟัน (Crown)
1. รากเทียม (Fixture) ทำมากจากไทเทเนียมเกรดการแพทย์ ไม่ก่อให้เกิดความระคายเคืองและเป็นมิตรต่อช่องปาก สามารถยึดติดกับกระดูกและทำหน้าที่เสมือนรากฟัน ทนทานต่อแรงบดเคี้ยว
2. แกนรองรับรากฟันเทียม (Abutment) ทำหน้าที่รองรับครอบฟัน
3. ครอบฟัน (Crown) ทำจาก Zirconia มีรูปร่างและสีเหมือนฟันธรรมชาติ
รากฟันเทียม มีข้อดีอะไรบ้าง
- สามารถใช้เคี้ยวอาหารได้ใกล้เคียงเสมือนฟันธรรมชาติมากที่สุด
- เสริมบุคลิก เพิ่มความมั่นใจให้กับรอยยิ้ม
- ป้องกันฟันซี่ข้างเคียงล้มเกมาในตำแหน่งที่สูญเสียฟันไป
- แก้ไขปัญหาฟันปลอมแบบถอดได้หลวม ยิ้มเห็นตะขอฟันปลอม เคี้ยวอาหารไม่สะดวก หรือเศษอาหารติดฟันปลอม
เตรียมตัวอย่างไรก่อนทำรากฟันเทียม
1. พบทันตแพทย์เพื่อปรึกษาและวางแผน
คุณหมอจะตรวจประเมินในช่องปากและเอ็กซเรย์ 3 มิติประเมินคุณภาพกระดูก และใช้Intra-Oral Scanner สแกนฟันเก็บข้อมูล อีกทั้งตรวจสอบประวัติโรคทางระบบและยาที่ทานอยู่ในปัจจุบัน เพื่อวางแผนการรักษาอย่างละเอียด
2. นัดหมายวันฝังรากเทียม
ในบางเคสอาจมีอาการปวด บวม หลังฝังรากเทียม เราจึงควรวางแผนวันงดการออกกำลังกายหนักหรือหลีกเลี่ยงการทำงานที่ต้องสนทนาเยอะ ๆ หลังได้รับการฝังรากเทียม 24 - 48 ชั่วโมงและงดสูบบุหรี่ก่อนเข้ารับการฝังรากเทียมเป็นเวลา 1 เดือน
3. วันฝังรากฟันเทียม
พักผ่อนให้เพียงพอ ทานอาหารตามปกติโดยไม่จำเป็นต้องงดน้ำหรืออาหารก่อนเข้ารับการฝังรากเทียม งดเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ทุกประเภท 24 48 ชั่วโมงก่อนเข้ารับการฝังรากฟันเทียม เนื่องจากแอลกอฮอล์อาจส่งผลให้เลือดหยุดไหลช้า
ฝังรากฟันเทียม มีขั้นตอนอย่างไรบ้าง
- เตรียมบริเวณที่จะฝังรากเทียมให้เหมาะสมกับขนาดที่วางแผนไว้ภายใต้ยาชา โดยขณะเข้ารับการฝังรากเทียม (Fixture) คนไข้จะไม่รู้สึกเจ็บแต่จะรู้สึกตึง ๆ หรือมีแรงกด
- เสริมกระดูก (Bone Graft or GBR) หรือยกไซนัส (Sinus Lift) ในกรณีที่จำเป็น
- เมื่อได้รับการฝังรากเทียมเรียบร้อยแล้ว คุณหมอจะทำความสะอาดและเย็บปิดแผลโดยจะเห็น Healing Cap โผล่พ้นเหงือกขึ้นมา
- ทำความสะอาดช่องปากด้วยการแปรงฟันตามปกติ และทำความสะอาดบริเวณ Healing Cap ที่โผล่พ้นเหงือกด้วยการใช้ไม้พันสำลีขนาดเล็กชุบน้ำเกลือสะอาดเช็ดวนตามเข็มนาฬิกา
- หลีกเลี่ยงการเคี้ยวอาหารบนบริเวณที่ฝังรากเทียม เนื่องจากกระดูกจะใช้เวลาประมาณ 3 เดือนในการยึดเข้ากับรากเทียม
- สแกนช่องปากเพื่อทำครอบบนรากเทียม
- คุณหมอจะใส่แกนรองรับรากเทียม (Abutment) และครอบฟัน (Crown) บนรากเทียม เอ็กซเรย์เช็คความแนบสนิทและเช็คการสบฟัน
- นัดเช็คหลังใส่ครอบรากฟันเทียมไปแล้ว 1 - 2 สัปดาห์ หลังจากนั้นนัดเช็คเป็นประจำทุก 6 เดือน
การดูแลตนเองหลังเข้ารับการฝังรากเทียม
- กัดผ้าก๊อซบนบริเวณที่รับการผ่าตัดฝังรากเทียมประมาณ 1 - 2 ชั่วโมงเพื่อห้ามเลือด
- ประคบเย็น 24 - 48 ชั่วโมงหลังได้รับการผ่าตัดฝังรากเทียม
- หลีกเลี่ยงการใช้หลอดดูดน้ำ หรือกลั้วปากแรง ๆ 24 - 48 ชั่วโมงหลังได้รับการผ่าตัดฝังรากเทียม
- งดออกกำลังกายหนักหรือกิจกรรมที่ต้องสนทนาเยอะ ๆ 24 - 48 ชั่วโมงหลังได้รับการผ่าตัดฝังรากเทียม
- งดดื่มแอลกอฮอล์ 7 วันหลังได้รับการผ่าตัดฝังรากเทียม
- .หลีกเลี่ยงการสูบบุหรี่เป็นเวลา 1 เดือน
- ทานยาแก้ปวด ยาแก้อักเสบตามที่ทันตแพทย์แนะนำ
หมายเหตุ: การผ่าตัดฝังรากเทียมถือเป็นการผ่าตัดเล็กตามมาตรฐาน โดยส่วนใหญ่พบว่าอาการระบมหลังทำมีอาการน้อยหรือใกล้เคียงกับการถอนฟัน อย่างไรก็ตามการหายของแผล การปวด บวมในแต่ละบุคคลแตกต่างกัน ขึ้นอยู่กับร่างกายของแต่ละบุคคล
รากฟันเทียมมีอายุการใช้งานกี่ปี
หากคนไข้ใช้งาน รักษาทำความสะอาดโดยการแปรงฟัน ใช้ใหมขัดฟันอย่างถูกวิธีเป็นประจำทุกวัน เข้าพบทันตแพทย์เพื่อตรวจเช็คและบำรุงรักษาเป็นประจำทุก 6 เดือน รากฟันเทียมก็จะอยู่ในสภาพที่ดี ไม่มีการอักเสบและสามารถอยู่ในช่องปากได้นานถึง 20 ปีหรือตลอดชีวิต
หมายเหตุ: อายุการใช้งานของรากเทียมขึ้นอยู่กับโรคประจำตัวทางระบบ กรณีที่คนไข้สูบบุหรี่เป็นประจำ รากฟันเทียมจะมีอายุการใช้งานไม่นานเท่าคนที่ไม่สูบบุหรี่ อีกทั้งการขาดนัดไม่ได้พบทันตแพทย์เป็นประจำทุก 6 เดือน ก็ส่งผลให้อายุการใช้งานของรากฟันเทียมลดลงอีกด้วย
ทำความสะอาดรากฟันเทียมอย่างไร
- ใช้ไหมขัดฟันเหมือนกับที่ใช้ในฟันธรรมชาติและโอบรอบฟัน แต่ในรากฟันเทียมไหมขัดฟันจะสามารถลงได้ลึกกว่าเล็กน้อย
- แปรงฟันครอบรากเทียมเหมือนการแปรงฟันธรรมชาติ
คำถามที่พบบ่อยเกี่ยวกับการทำรากฟันเทียม
Q: ฝังรากฟันเทียมเจ็บมากมั้ย
A: ก่อนเริ่มทำคุณหมอจะให้ยาชาระงับความเจ็บปวด ขณะการฝังรากฟันเทียมคนไข้จะไม่รู้สึกเจ็บแต่จะรู้สึกตึง ๆ มีแรงกดหรืออาจรู้สึกถึงแรงสะเทือนได้ ส่วนหลังการผ่าตัดฝังรากฟันเทียมอาจมีอาการระบม ปวด บวมได้ โดยคุณหมอจะจ่ายยาแก้ปวดและแก้อักเสบเพื่อบรรเทาอาการเหล่านี้
Q: ใช้เวลาฝังรากฟันเทียมนานแค่ไหน
A: โดยทั่วไปใช้เวลาประมาณ 1 ชั่วโมง แต่หากมีการปลูกกระดูกหรือยกไซนัสอาจใช้เวลาเพิ่มขึ้น ขึ้นอยู่กับความซับซ้อนของแต่ละเคส
Q: รากฟันเทียมอยู่ได้นานกี่ปี
A: หากทำความสะอาด ดูแลรักษาดี และพบทันตแพทย์เพื่อตรวจเช็คเป็นประจำทุก 6 เดือน รากฟันเทียมสามารถมีอายุได้นานถึง 20 ปีหรือตลอดชีวิต
Q: ทำรากฟันเทียมคุ้มค่ามั้ย
A: รากฟันเทียมมีความทนทานสูงและใช้งานได้เหมือนฟันธรรมชาติ หากเราดูแลรักษาดีก็สามารถอยู่ได้นานหลายปีจึงถือว่าคุ้มค่าต่อการทำ
Q: คนที่ทำรากฟันเทียม สามารถจัดฟันได้หรือไม่
A: หากมีแพลนที่จะจัดฟัน ควรจะวางแผนจัดฟันร่วมกับการฝังรากเทียมและจัดฟันให้เสร็จก่อนเข้ารับการฝังรากฟันเทียมเนื่องจากรากฟันเทียมจะยึดนิ่งอยู่กับที่ ไม่สามารถขยับขณะจัดฟันได้
Q: ทำไมคนที่รับการฝังรากเทียมจึงไม่ควรสูบบุหรี่
A: การสูบบุหรี่จะส่งผลทำให้กระดูกและเนื้อเยื่อที่อยู่รอบ ๆ รากฟันเทียมเกิดการอักเสบและอาจส่งผลต่อการยึดของรากฟันเทียม